สองชั่วโมงหลังเลนส์ที่ สำนักแม่ชีไทยญาณพิมพ์ศิกาญจน์ สังขละบุรี
by Noppakun Dibakomuda on Saturday, September 10, 2011 at 4:16pm
ผมมีโอกาสเดินทางที่สังขละบุรี จ.กาญจนบุรีอีกครั้งหลังจากไม่ได้มาเยือนที่นี่เลยในช่วงระยะเวลากว่าสิบปี ด้วยการที่เวลาไปไหนมาไหนก็มักจะมีกล้องถ่ายภาพห้อยคอไว้เสมอ และกล้องหนักๆ ดูโปรๆ บนคอของผมนี่แหละที่ทำให้คุณ พลอย ชัญญพัชร์ นิชิบุชิ ผู้จัดการเกสท์เฮ้าส์ที่ผมได้ไปพัก เข้ามาทักทายพร้อมกับส่งคำถามว่า "ถ้าจะรบกวนให้ไปถ่ายภาพเด็กๆ หน่อยจะได้ไหม?”

มันช่างเป็นคำถามที่เอาไว้ถามต่อจริงๆนะ คุณว่ามั๊ย หลังจากนั้นเราก็ได้เริ่มการพูดคุยเกี่ยวกับคำถามนี้ และผมไม่ลังเลที่จะตอบตกลง โดยที่เช้าวันรุ่งขึ้นคุณพลอยจัดมอร์เตอร์ไซค์มารับผมจากที่พักไปถ่ายภาพ...“เด็กๆ?”
ผมซ้อนมอร์เตอร์ไซค์ออกไปจากที่พักในตัวเมืองสังขละ มาตามถนนลาดยาง สาย 323 เหมือนมุ่งหน้ากลับกรุงเทพเรื่อยๆ จากตัวเมืองสังขละประมาณห้ากิโลเมตรก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปสู่ถนนเล็กๆ ที่ตัดไปสู่ อบต.ไล่โว่ ไม่นานนักถนนลาดยางผุๆก็กลายเป็นถนนลูกรัง แม้ระยะทางจะแค่เพียงสามถึงสี่กิโลเมตรจากถนนใหญ่แต่ก็มีหลายครั้งที่ต้องลง จากรถแล้วเดินด้วยความที่ถนนบางช่วงทั้งลื่นและชัน จนผมมาถึง “สำนักแม่ชีไทยญาณพิมพ์ศิกาญจน์”


ผมไม่ได้มีเวลามากนักสำหรับที่นี่เพราะ ผมต้องกลับไปขึ้นรถกลับกรุงเทพก่อนบ่ายสอง ทุกอย่างจึงไม่จำเป็นมีพิธีรีตองมากมายเช่นกัน

ผมเข้าไปแนะนำตัวกับแม่ชี พิมพ์ใจ หรือที่ชาวสังขละหลายๆคนรู้จักในนาม “แม่ชีแจ๊ด” ซึ่งแม่ชีก็กำลังวุ่นอยู่กับการสอนหนังสือเด็กๆ ผมจึงรีบขอตัวไปถ่ายภาพเด็กๆในห้องเรียน ซึ่งตอนที่ผมไปนั้นมีเด็กอยู่สามห้องด้วยกัน

ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ระหว่างผม กับเด็กๆ ครูอาสา สองคนซึ่งเป็นลูกหลานชาวบ้านแถวนั้น รวมถึงสำนักแม่ชีแห่งนี้ และตัวแม่ชีเอง ไม่น่าเชื่อครับว่าสิ่งที่ผมได้เห็นผ่านเลนส์ทำให้ ผมได้รู้และเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง

ช่วงพักกลางวันจึงเป็นช่วงเวลาเดียวที่ผมมีโอกาสพูดคุยกับแม่ชี่ถึงสิ่งที่ท่านทำอยู่ นั่นก็คือ “แม่ชีทำการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนให้ความรู้กับเด็กๆ หลากชาติพันธุ์ ตั้งแต่ กระเหรี่ยง พม่า ยะไข่ ทวาย มอญมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2540”

แม่ชีบอกว่าเด็กๆเหล่านี้ส่วนใหญ่พ่อแม่ลงมาทำงานในเมืองใหญ่ๆที่ต้องการแรงงานโดยทิ้งลูกๆไว้ที่หมู่บ้าน บ้างก็เป็นเด็กที่ถูกทารุณกรรม หรือไม่มีพ่อแม่เลยก็มี และเด็กๆเหล่านี้ก็เป็นเด็กที่ขาดการอบรม ไม่รู้หนังสือ เข้าไม่ถึงระบบการศึกษาของรัฐ เด็กๆที่นี่มีตั้งต่สามสี่ขวบจนถึงสิบขวบ รวมแล้วก็ประมาณเจ็ดสิบคน และเด็กๆกว่าครึ่งในจำนวนนี้ อาศัยกินอยู่หลับนอนที่สำนักฯแห่งนี้ด้วย!!!

มาถึงตรงนี้เราก็คงมีคำถามเดียวกันใช่ไหมครับว่า “แม่ชีหางบประมาณ อาหาร และปัจจัยสำคัญจำเป็นอื่นๆมาใช้เลี้ยงเด็กจากไหน อย่างไร?”

แม่ชีตอบคำถามผมว่า ท่านได้รับปัจจัยต่างๆเหล่านี้จากการบริจาคทำบุญโดยชาวบ้านที่สังขละเอง ตอนที่ผมขึ้นไป ที่นี่มีพระพม่ามาจำพรรษาอยู่สองสามรูปเพื่อศึกษาธรรมะและภาษาไทย ตอนเช้าๆพระก็ออกบิณฑบาตรพอได้ปัจจัยต่างๆมาบ้าง ส่วนเด็กๆต้องออกไปหาพืชผัก ของป่าที่หาได้จากธรรมชาติมาปรุงอาหารกินกัน เช่น หน่อไม้ หยวกกล้วย เป็นต้น

เมื่อก่อนนี้มีองค์กรการกุศลจากออสเตเลียซึ่งเป็นองค์กรทางคริสต์ศาสนา มาพบเห็นและได้บริจาคเงินข้ามทวีปมาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี แต่ตอนนี้ได้รับแจ้งว่าทางองค์กรก็ประสบปัญหาทางการเงินจึงขอหยุดที่จะให้เงินบริจาคไป นอกจากนั้นแม่ชีก็ต้องออกไปขอรับบริจาคข้าวปลาอาหารและสิ่งของอุปโภคบริโภคต่างๆมาจากวัดในจังหวัดกาญจนบุรีซึ่งไม่ได้มีความเพียงพอและแน่นอนนักรวมถึงการขนส่งสรรพสิ่งเหล่านี้นั้นก็ยากลำบากด้วยยานพาหนะและสภาพภูมิประเทศ สรุปคือ เด็กๆที่นี่เป็นอยู่กันในระดับที่เรียกวว่า “วิกฤติ” เต็มที !!!

ระหว่างทางที่ผมกลับมาจากสังขละบุรีผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่าผมคงไม่สามารถจะให้แค่เพียงภาพถ่ายของผมกับสำนักแม่ชีแห่งนี้ ผมคงต้องทำอะไรมากกว่านี้เพื่อช่วยเหลือทุกคนที่นี่ และภาพที่ทุกคนได้เห็นรวมถึงบทความยืดยาวนี่ก็คือสิ่งที่ผมทำครับ

ผมคิดว่าในปีหนึ่งๆมีนักท่องเที่ยวมากมายขึ้นไปที่สังขละ ไปเที่ยว ไปถ่ายภาพ ไปทำบุญ หรือด้วยประสงค์อะไรก็ตามแต่ ผมหวังว่าบทความและภาพถ่ายของผมนี้อาจจะทำให้ใครเลี้ยวเข้าไปที่สำนัก แล้วมีปัจจัยดำรงชีพต่างๆติดไม้ติดมือไป จะเป็น ข้าวสาร อาหาร เสื้อผ้า ยาหยูก ตุ๊กตา ตามแต่จะสะดวก หรือจะช่วยเหลือตามความคิด ตามกำลังความสามารถอย่างไรก็ตามแต่ครับ.


-แม่ชีพิมพ์ใจ มณีรัตน (แม่ชีแจ๊ด) สำนักแม่ชีไทยญาณพิมพ์ศิกาญจน์ ศูนย์การศึกษาตามอัธยาศัยไทยภูเขา302/12 ม.3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี 71240
-โทร. 034-595-511 คุณคำสาย สูนพลอย (เป็นเบอร์บ้านพี่สาวของแม่ชีอยู่ที่ในตัวเมืองสังขละ), 089-535-0264, 081-192-9517 เป็นเบอร์แม่ชีซึ่งอาจจะติดต่อยากเพราะอยู่ในที่อับสัญญาณ และ 089-991-9132 เป็นเบอร์คุณพลอย ชัญญพัชร์ นิชิบุชิ น้องสาวของแม่ชี ซึ่งน่าจะช่วยอำนวยความสะดวกหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้
-หรือบริจาคเงินได้ที่ ชื่อบัญชี แม่ชี พิมพ์ใจ มนีรัตน์ ธ.ไทยพานิช ออมทรัพย์ สาขาสังขละบุรี 679-2-056185
-ที่นี่ต้องการอะไรบ้าง จากความเห็นผมนะครับก็พวกข้าวสาร อาหารแห้ง (ซื้อจากสังขละสะดวกกว่าไม่ต้องแบกไป) เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค เครื่องใช้พวกยาสีฟัน สบู่ น้ำยาทำความสะอาดหรือสิ่งจำเป็นในครัวเรือนต่างๆ หนังสือแบบเรียน (ชั้นอนุบาลถึงประถม) สมุด ดินสอ เครื่องเขียนพื้นฐานต่างๆ รวมถึงของเล่น เอาเป็นว่าอะไรที่เราหยิบเราใช้อย่างจำเป็นในชีวิตประจำวันเราก็น่าจะใช่ทั้งนั้น แม้แต่ครูอาสาที่จะไปช่วยแม่ชีสอนหนังสือ อาจจะเป็นกิจกรรมค่าย จากสถาบันการศึกษา หรือบริษัท ทำนองนี้ก็ได้
-ลองเสริชกูเกิลคำว่า >> สำนักแม่ชีไทยญาณพิมพ์ศิกาญจน์ ศูนย์การศึกษาตามอัธยาศัยไทยภูเขา หนองลู สังขละบุรี ก็พอจะมีข้อมูลจากคนที่เคยไปที่นี่มาบ้างครับ

-ใครที่อ่านที่เห็นภาพและบทความจากผมนี้แล้ว หากช่วยกรุณาส่งต่อๆไปให้เพื่อนๆ ผมก็ว่าน่าจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยครับ...ขอบคุณครับ
ขอบคุณบทความและภาพ เครดิตจาก คุณ นพคุณ ทิพโกมุท
http://www.facebook.com/notes/noppakun-dibakomuda